วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

Sky & Sea (yugjae) #ฟิคสั้นพีจีวาย


NOTE:: #yugjae

TAG:: #ฟิคสั้นพีจีวาย

Twitter:: @pgy_j

Writer:: Maples_pgyj

SONG:: Sky & Sea (เอิ๊ต ภัทรวี)





มองที่มุมเดิมๆ อยู่ตรงที่เดิมๆ
ข่มใจตัวเองเอาไว้ ทั้งรู้ข้างใน หวั่นไหวเมื่อใกล้เธอ
เพียงเอื้อมมือเท่านั้น ก็ไปได้ถึงตัวเธอ
แต่หัวใจยังห่างไกล รักเท่าไร เธอไม่รู้เลย



“พี่ยองแจครับ!!!” ผู้ชายตัวสูงวิ่งกระหืดกระหอบพร้อมกับลำแขนแกร่งทั้งสองข้างที่หอบหิวเอาหนังสือจำนวนมากเอาไว้แนบอก ใบหน้าหล่อแต่ถ้าจะมองอีกมุมก็ยังคงดูน่ารักไม่ยอกเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใสจำนวนไม่น้อยที่ค่อยๆไหลลงมาจากผมสีเข้ม

“หือ? มีอะไรหรอยูคยอม” ผู้ชายตัวเล็กผิวขาวดูสะอาดตาหันไปถามคนเป็นรุ่นน้องที่ยืนเหนื่อยหอบอยู่ด้านหลังด้วยความสงสัย แต่ไม่นานความสงสัยที่มีนั้นก็หายวับไปเมื่อมือหนาของคนเป็นรุ่นน้องยื่นสมุดแลกเชอร์สีน้ำตาลอ่อนมาให้ ยองแจฉีกยิ้มเจือนๆอย่างเกรงใจคนเป็นน้องรหัสก่อนจะเอื่อมมือไปรับเอาสมุดแลกเชอร์ของตนในมือหนานั่น

“ขอบคุณสำหรับแลกเชอร์นะครับพี่ยองแจ ถ้าไม่ได้แกเชอร์ของพี่ควิซคาบเมื่อกี้ผมคงซวยแน่ๆเลย” ริมฝีปากหยักวาดยิ้มกว้างอย่างเป็นธรรมชาติให้กับร่างบางตรงหน้า “งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“หอเราอยู่ไหนเดี๋ยวพี่ไปส่ง เอาหนังสือมาให้พี่ด้วยจะช่วยถือ” ร่างบางว่าก่อนจะแบ่งเอาหนังสือจำนวนหนึ่งมาหอบเอาไว้เท่าที่กำลังตัวเองจะสามารถ ยูคยอมมองคนพี่ยิ้มๆอย่างดีใจ ถึงแม้พี่รหัสของเขาจะช่วยเหลือเขาบ่อยๆก็เถอะนะแต่ทุกการช่วยเหลือจากพี่รหัสแสนน่ารักคนนี้มักทำให้ยูคยอมดีใจจนใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

“จะดีหรอครับ มันหนักนะ”

“นี่เราเป็นน้องรหัสพี่นะแล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่เคยไปดูที่หอเราเลย พี่ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าน้อยรหัสของพี่อยู่ยังไง” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสบดวงตาคมอย่างจริงจัง ทำเอายูคยอมใจเต้นรัวถี่ยิ่งกว่าเดิมมือหนาเปียงชื้นไปด้วยเหงื่อจำนวนไม่น้อยที่ไมรู้ว่าออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ยูคยอมหลบตายองแจก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินนำคนพี่ไปที่หอของตัวเอง

พอไปถึงหอทยูคยอมก็ชวนยองแจให้ไปนั่งดื่มน้ำที่ห้องตามมารยาทก่อนจะคุยกันไปมาแลกเปลี่ยนกันสรรพเพเหระ จนฟ้าเริ่มมืดลงแต่ยองแจนั้นก็ไม่ยอมกลับเสียที ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่อยากกลับบ้านยองแจเลยเอาหนังสือมาช่วยติวให้ยูคยอมไปด้วย จนเวลาล่วงเลยไปถึงสามทุ่มครึ่งยูคยอมจึงขอตัวไปอาบน้ำก่อนเพราะความเคยชิน

ร่างสูงรูปร่างสัดสวนดูดีเทียบเท่านายแบบชื่อดังออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าที่ใส่เพื่อเตรียมนอนแล้วเสร็จสรรพ ทันทีที่เปิดประตูออกมาก็เจอกับร่างเล็กของพี่รหัสจอมดื้อกำลังนอนหลับคาโต๊ะโดยใช้แขนต่างหมอนหนุน…

ยูคยอมนั่งพิจารณาใบหน้าหวานของคนเป็นพี่รหัสอย่างเพลิดเพลิน จนบางที่อาจจะเพลินไปหน่อยจนทำให้ใบหน้าของเขาขยับเขาไปใกล้ๆใบหน้าหวานของคนเป็นพี่เรื่อยๆ ลมหายใจอุ่นร้อนไม่ได้ทำให้คนที่หลับใหลอยู่ตื่นแต่อย่างใดแต่ทำเพียงแค่ครางอื้ออึงในลำคอขณะที่ริมฝีปากหยักของร่างสูงแตะลงบนกลีบปากสีชมพูระรื่ออย่างแผ่วเบาเท่านั้น ยูคยอมไม่ได้ทำอะไรมากเพียงแค่แช่ปากตัวเองค้างอยู่บนกลีบปากบางอยู่นานนับหลายวินาทีพร้อมๆกับเสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัวจนแทบออกมาจากอก

ยูคยอมน่ะ…

ชอบยองแจมาตั้งนานแล้ว…

แต่ไม่เคยคิดที่จะบอกความในใจออกมาแม้แต่ครั้งเดียว






แผ่นฟ้าคราม.. และน้ำทะเล..
ไม่ต่างกับเธอและฉัน ที่ดูเหมือนใกล้กัน
แต่ความจริงนั้นไกลเหลือเกิน..







ความรู้สึกทั้งหมดที่ยูคยอมมีให้ยองแจอาจจะไม่ถึงครึ่งกับที่ยองแจนั้นมีให้ใครอีกคน แต่เขาคิดว่าความรู้สึกที่เขามีให้ร่างบางที่กำลังพูดเจือยแจวอยู่โต๊ะอาหารอีกฟ้ากหนึ่งของโรงอาหารนั้นก็มีไม่ได้น้อยไปกว่าคนที่ยองแจนั้นมอบความรู้สึกให้หรอก

ร่างสูงค่อยๆตักอาหารคำสุดท้ายเข้าปากแต่สายตาก็ยังมองไปยังพี่รหัสของเขาอย่างไม่วางตา จนเพื่อนรวมโต๊ะของเขาถึงกับกรอกตาเป็นรูปวงกลมสามร้อยหกสิบองศาให้ก่อนจะเอ่ยเรียกคนเป็นเพื่อนด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

“แหม...ถ้ามึงจะมองขนาดนี้ไม่วิ่งถือจากข้าวไปนั่งกับพี่เค้าเลยล่ะครับ” ยูคยอมล่ะสายตาออกจากยองแจก่อนจะหันขวับไปส่งต้อนวงโตให้เพื่อนสนิทอย่าง มาร์ค ต้วน

“ไม่เสือกสักเรื่องจะตายมั้ยครับเพื่อนมาร์ค” พูดจบก็หันไปมองที่จุดเดิมต่อแต่ร่างสูงกลับหน้ามุ้ยลงจนคนเป็นเพื่อนมาร์คสังเกตได้ชัดเจน มาร์คหันไปมองทางที่เพื่อนตัวเองมองบางก่อนจะพบสาเหตุที่ทำให้เพื่อนตัวเองต้องหุบยิ้มลงดื้อๆ จะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่พี่แจบอมพี่ว๊ากคณะวิศวะหน้าเหวี่ยงโลกแฟนพี่ยองแจ มาร์คคิดก่อนจะเอื่อมมือไปตบบ่าเพื่อปุ๊ๆ

ยูคเอ้ย...ถึงมึงจะได้ใกล้ชิดพี่เค้า แต่ยังไงมันก็ยังไกลเกินมึงเอื่อมอยู่ดีวะ

มาร์คได้แต่พูดปลอบใจเพื่อนตัวเองในใจ







อยากบอกเธอ เมื่อไหร่ที่เธอเหงาไม่มีใคร
เธอจะยังมีฉันคอยอยู่ตรงนี้ไม่ไกล
ให้เป็นดั่งเงาสะท้อนบนผืนน้ำ
มองลงมาเมื่อใด ก็เห็นฟ้าที่งดงาม





ฝนตกพร่ำลงบนพื้นถนนพร้อมๆกับเสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาจากฝากฟ้าตกกระทบลงบนร้องเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดซ้ำเข้าบ่อยๆจนมันเปียกและสีหม่นหมองลงอย่างน่าเสียดาย แต่เจ้าของมันกลับไม่นึกเสียดายมันแต่อย่างใด ดวงตาเรียวรีทอดมองพื้นถนนหน้าหอพักอย่างเหม่อลอยภายในหัวสมองว่างเปล่าไร้ซึ่งเรื่องราวน่าปวดหัว มือบางยกเบียร์กระป๋องขึ้นจิบเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของค่ำคืนนี้

ยองแจเหงา...เหมือนสวนที่หายไปยังไม่เคยได้รับการเติมเต็มจากคนที่เรียกว่าแฟนเสียที มีแต่เขาที่มอบความรักความสนใจและความเข้าอกเข้าใจให้อีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว มีน้อยครั้งนักที่จะได้รับมันกลับแต่ก็ไม่เคยได้รับมันสม่ำเสมอเสียทีจนบางทีเขาเองก็นึกเหนื่อยขึ้นมา อยากได้รับความสนใจและความเข้าใจจากคนรักของเขาบ้างเหมือนกันหรือใครก็ได้...ใครสักคนที่พวกจะให้เขากอดไม่ใช่หนีหายไปเที่ยวเตร่ตอนค่ำคืนแบบคนรักของเขา

มือเรียวล่ะออกจากกระป๋องเบียร์ราคาไม่แพงมากมาเป็นการกอดตัวเองก่อนที่ใบหน้าหวานสวยจะแหงนขึ้นรับหยาดน้ำจากฟากฟ้าอย่างเต็มที่...จริงๆการกอดตัวเองก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ มันก็เหมือนกับที่ใครคนหนึ่งที่ยืนตากฝนมองร่างบางก็ทำด้วยเช่นกัน แขนแกร่งโอบรอบแผ่นอกหนาของตัวเอง สายตาอันเหงาหงอยเหม่อมองไปที่คนตัวเล็กที่กำลังแหงนหน้ามองฟ้าไปด้วยอย่างชั่งใจว่าจะเข้าไปคุยด้วยดีไหม เขารู้ว่าทำไมยองแจถึงออกมาอย่างนี้ในเวลาแบบนี้ เรื่องแบบนี้คงหนีไม่พ้นแฟนหนุ่มของยองแจที่มักออกไปข้างนอกบ่อยๆเป็นแน่

“พี่ยองแจ…” ในที่สุดร่างสูงก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งข้างๆคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยคำที่มักใช้เป็นประจำ ใบหน้าหวานที่แหงนมองฟ้าหันมามองเขาก่อนจะวาดยิ้มบางๆส่งให้คนเป็นน้องรหัส “ทำไมพี่ถึงออกมาตากฝนแบบนี้ล่ะครับ เดี๋ยวก็ไม่สะบายเอาหรอกนะครับ” สายตาเป็นห่วงที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจถูกส่งไปให้คนเป็นพี่

“ยังไม่ง่วงน่ะ...แล้วเราล่ะมาทำอะไรแถวนี้ทำไมไม่เอาร่มออกมาด้วย” น้ำเสียงแสนเหงาถูดเอ่ยออกมาจากริมฝีปากบางก่อนริมฝีปากนั้นจะแตะลงบนกระป๋องเบียร์และรับน้ำรสชาติขมซ่าบาดคอเข้าปาก

“มาเดินเล่นนะครับ ไม่คิดว่าฝนมันจะตกก็เลยไม่ได้พกร่มมาเลย” ประโยคโกหกคำโตถูกพูดออกมาจากร่างสูง แววตาวูบไหวจ่องมองกระป๋องเบียร์ในมือเรียวสวย เขาไม่อยากให้ยองแจดื่มมันเลย ไม่อยากให้ยองแจต้องมาเสียสุขภาพเพราะเบียร์กระป๋องโง่ๆนี่

“ดื่มหน่อยมั้ย” เบียร์กระป๋องใหม่ถูกยืนไปให้ยูคยอม สายตาออดอ้อนถูกส่งมาให้คนเป็นน้องโดยที่เจ้าของสายตาไม่แม้จะรู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรบางในตอนนี้ เพราะเบียร์ที่เขาค่อยๆจิบเรื่อยๆจากหนึ่งกระป๋องเพื่อมขึ้นเรื่อยๆเป็นสี่และห้าทำให้เขาเริ่มจะกรึ่มๆมึนๆขึ้นมาบางแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเมาอะไร ยูคยอมหยุดคิดสักพักก่อนจะยื่นมือไปรับเบียร์กระป๋องมาจากมือพี่รหัสเพราะเขาดัเหลือบไปเห็นเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิดดื่มภายในถุงซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเหลืออีกหลายกระป๋อง เขาเลยอยากจะช่วยดื่มให้หมดๆไปพี่รหัสของเขาจะได้ไม่ต้องดื่มมันเยอะขนาดนั้น

“ขอบคุณครับ” ยูคยอมกระดกดื่มเบียร์กระป๋องนั้นรวดเดียวจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาที ก่อนจะเอื่อมไปหยิบอีกกระป๋องมาเปิดแล้วกระดกขึ้นดื่มรวดเดียวอีกเหมือนเดิม กระป๋องที่สองหมดไปกระป๋องที่สามสี่และห้าก็ตามมาติดๆพร้อมๆกับพี่รหัสที่ค่อยๆจิบมันไปเรื่อยๆพลางมองน้องรหัสตัวเองอย่านึกขัน

ทั้งสองดื่มไปคุยกันไปสารพัดเรื่องราวเท่าที่คนเป็นพี่รหัสน้องรหัสจะสรรหามาพูดคุยแรกเปลี่ยนกันได้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่สารพัดเรื่องราวในคณะนั้นจะแปลเปลี่ยนเป็นการพูดคุยปัญหาเรื่องส่วนตัวเนื่องจากทั้งสองเริ่มเมากันแล้วเล็กน้อยจนแอลกอฮอล์ทำให้พวกเขายอมพูดปัญหาส่วนตัวออกมา แต่คงจะมีคนเดียวนี่แหละที่เอาแต่พูดบ่นนั่นนี่ให้อีกคนฟัง ยูคยอมก็ยังนั่งมองหน้าพี่รหัสพร้อมกับสองหูที่รับฟังความทุกข์ใจของอีกฝ่ายอย่างไม่นึกเบื่อ

“นี่คงจะกระหายเบียร์มากนะเนี่ยซัดเอาๆซะจนจะหมดถุงอยู่แล้ว” ยองแจพูดปนขำก่อนจะกระดกส่วนที่เหลือลงคอแล้วหยิบกระป๋องใหม่ขึ้นมาเปิดแต่กระป๋องเบียร์กระป๋องสุดท้ายนั้นกลับมือมือหนามาคว้าเอาไว้พร้อมๆกันกับเขา ยองแจเงยหน้าขึ้นสบดวงตาคมที่มองเขาด้วยแววตาหวานเยิ้ม นี่คงเมาจริงๆแล้วใช่มั้ย ยองแจคิดในใจเพราะเขาเองก็เริ่มจะมีอาการมึนๆแล้วเหมือนกัน ดวงตาสบกันเนิ่นนานจนคนที่มีสติที่สุดอย่างยองแจถึงกลับต้องเสมองทางอื่นเพราะไม่สามารถต้านทานแววตาที่ยูคยอมใช้มองเขาไม่ได้ มันดูเหงาพร้อมๆกับกำลังอ้อนวอน อ้อนวอนอะไรบางอย่าง

“เคลียดๆหน่อยน่ะครับ...พี่ยองแจ” ยูคยอมเปิดกระป๋องเบียร์กระป๋องสุดท้ายก่อนจะยกขึ้นกระดกมันเข้าปากอีกรอบแต่ยองแจที่มีสติมากกว่าเล็กน้อยแย่งมันมากระดกเข้าปากตัวเองแทน น้ำรสชาติขมบาดคอไหล่ลงโพรงปากร่างบางพร้อมกับมีบางส่วนที่ล้นออกมาจากปากของยองแจด้วย เขาไม่อยากให้น้องรหัสเมาเพราะกลัวว่าอาจจะล้มหรือไปโวยวายกวนเท้าใครระหว่างทาง จนกลายเป็นว่าตอนนี้คนพี่เมากว่าคนน้องไปเสียแล้ว

ยองแจทิ้งหัวหนักๆของตัวเองลงบนแผ่นอกกว้างของน้องรหัสก่อนที่มือเรียวบางจะโอบรอบเอวสอบจนคนโดนกอดถึงกับทำตัวไม่ถูก หัวใจผู้ซื่อตรงเต้นรัวเร้าอีกครั้งยามที่ยองแจถูไถหัวทุยไปมาที่อกของเขาอย่างออดอ้อน






บอกรักเธอทีไร ก็บอกได้แค่ในใจ
เข้าข้างตัวเองเสมอ แอบหวังให้เธอ มีฉันในสายตา







“ยูคยอมอ่าาาา พี่เหงาชะมัดเลย”

“....”

“ทำไมเค้าไม่เคยเข้าใจอะไรพี่บางเลยนะ แทนที่ตอนกลางคืนพี่จะต้องได้อ้อมกอดจากเค้าแต่เค้าก็ไม่เคยอยู่กอดพี่เลย พี่ต้องกอดหมอนข้างแทนทุกๆคืน...พี่เหงายูคยอม...พี่อยากได้สักคนที่สนใจ ใส่ใจและเข้าใจความรู้สึกของพี่…”

“.....” ยูคยอมไม่ได้พูดอะไรเขาทำเพียงแค่ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนอย่างเบามือพร้อมกับมืออีกข้างก็กอดร่างบางเอาไว้ เขาเองก็เหงา...เขาเหงาที่ยังไม่มีใคร เขาเหงาที่คนที่เขารักหมดใจมีเจ้าของแล้ว อยากจะแย้งแต่ก็ทำไม่ได้เพียงเพราะเขาอยากเป็นคนดีในสายตาของยองแจ ไม่อยากให้คนในอ้อมกอดตอนนี้มองเขาเป็นคนไม่ดี

จมูกโด่งกดลงกลุ่มผมสีดำสนิทพร้อมๆกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาปะปนกับเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่หยุด



ใช่...เขากำลังร้องไห้



และคนในอ้อมกอดของเขาก็กำลังร้องไห้เหมือนกัน ริมฝีปากบางก็ยังพูดพร่ำอย่างนั้นอย่างนี้ถึงคนรักของตัวเองไม่หยุดทั้งที่ใบหน้ากำลังซุกอยู่ในอกของใครอีกคน ทุกคำพูดที่กล่าวถึง อิม แจบอม คนรักของร่างบางในอ้อมอกทำให้ยูคยอมน้ำตาไหลเป็นทางด้วยความเจ็บปวดสองแขนโอบรัดเอวบางเอาไว้จนแน่นราวกับว่านี่เป็นกอดสุดท้าย ยูคยอมขบกัดริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นก้อนสะอื้นของตนเพื่อปล่อยให้ร่างบางได้ร้องและสะอื้นไห้อยู่คนเดียว

“ยูคยอม...พี่รักเขามากเกินไป ฮึก...พี่รักเขามากยูคยอมพี่อยากมีคนอื่นแต่พี่ทำไม่ได้ ฮึก...” คำว่ารักเหมือนกับใบมีดคมที่กรีดลงกลางหัวใจโง่ๆของเขาที่กำลังบอบช้ำให้เป็นแผลลึกยิ่งกว่าเดิม ยูคยอมเจ็บ...เขาเจ็บเหมือนหัวใจของตัวเองโดนบีบเค้นจนเละคามือคนที่เขารัก เขาเจ็บปวด...เจ็บปวดที่ไม่อาจจะบังคับให้คนในอ้อมกอดมารักเขาได้เหมือนที่เขารัก


ยองแจ…


ผมรักพี่


ผมรักพี่มากเกินไปเหมือนกัน


ผมรักพี่ยองแจ พี่เคยได้ยินบางไหม!!!

ถึงอยากจะจับตัวร่างบางออกมาเขย่าๆแล้วตะโกนพร่ำบอกว่ารักใส่หน้าแต่ก็ทำไม่ได้ สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้เพียงแค่เงียบปล่อยให้น้ำตาไหล่รินลงพร้อมกับหยาดฝน ปล่อยให้เสียงฟ้าร้องดังกลบเสียงสะอื้น ใช้เพียงสองแขนโอบรอบเอวบางเอาไว้อย่างแผ่วเบาเท่านั้น เขาทำอะไรไม่ได้เลย





แม้ฉันไม่ได้เป็นคนที่เธอรัก ก็เพียงพอแล้ว..
ที่มุมนี้.. มุมที่มีแค่ฉันข้างเดียวก็สุขใจ






‘ฝันดีนะครับพี่ยองแจ...’

‘อื้ม ขอบใจนะที่ดื่มเป็นเพื่อน’




ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนถูกฉายซ้ำในหัวของร่างสูงอยู่หลายรอบราวกับโดนซ้ำเติมให้จมปลักอยู่แต่กับมันจนไม่เป็นอันเรียน เวลาสี่ชั่วโมงในคลาสผ่านไปโดยเขาเองแทบไม่ได้อะไรจากการเข้าเรียนครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ได้รับมาเพียงอย่างเดียวคือความเจ็บปวดและฉอกช้ำราวกับดวงใจโง่ๆนี้ถูกเหยียบจนแหลกคาพื้นอยู่หลายสิบรอบ จากคำพูดบอกเล่าเรื่องราวของยองแจและคนรักของเขาเมื่อคืน คำว่ารักอิม แจบอม ที่หุดออกมาจากกลีบปากบางซ้ำไปซ้ำมาทำให้เขาแทบอยากจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอีกระรอก

“ไอ้ยูคเย็นนี้พวกพี่ๆสายรหัสกูกับมึงเค้านัดกันไปกินเลี้ยงพี่เค้าบังคับให้ไป มึงจะไปม้ะ?” คำถามของเพื่อนสนิทที่อยู่ๆก็ถามขึ้นมาทำเอายูคยอมตกใจแทบสะดุ้ง กินเลี้ยงสายรหัสงั้นหรอ? ไม่ไปคงเสียมารยาทแน่ ยูคยอมคิดในใจ นอกจากเขาจะกลัวเสียมารยาทแล้วประโยคคำถามเมื่อกี้ของเพื่อนสนิทมันมีคำว่าบังคับด้วยเพราะฉนั้นแปลว่าไม่ไปไม่ได้

“อื้ม ไปก็ไป”
.

.

.

.

.

ร่างสูงของผู้ชายสองคนย่างก้าวเข้ามาในงานพร้อมๆกับสายตาของหญิงสาวมากมายในร้านที่จับจ้องมาทางพวกเขาสองคนอย่างไม่วางตา แต่นั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาสนใจแต่อย่างใด ชายหนุ่มในชุดเที่ยวกลางคืนที่ดูเท่ห์และเซ็กซี่ไม่หยอกเดินตรงไปหากลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังกวักมือเรียกด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“เป็นไงเฮียน้องรหัสผมหล่อป้ะ?” ทันทีที่ยูคยอมไปถึงโต๊ะพี่รหัสสุดน่ารักของเขาก็ดึงแขนคนน้องมาหาตัวเองก่อนจะใช้เรียวแขนเล็กโอบรอบคอคนน้อง ยูคยอมมองหน้าพี่รหัสตอนก่อนจะหันไปยิ้มให้พี่อีกคนบ้าง

“อื้มผ่าน ดูท่าจะฮอตน่าดูเลยนะเนี่ย” ผู้ชายร่างหนาผมสีทองสว่างว่า

“ก็แหงล่ะ น้องรหัสมันก็ต้องหล่อเหมือนพี่มันอยู่แล้วเนอะยูคยอม” ไหล่บางแกล้งกระแซะต้นแขนร่างสูงเบาๆ ยูคยอมก็ได้แต่ก้มหงุดเพราะความเขินที่อยู่ๆพี่รหัสที่ตัวเองแอบชอบมาชมว่าหล่อ มันก็ไม่บ่อยหรอกนะที่ยองแจจะชมยูคยอมอย่างออกหน้าออกตาขนาดนี้ ยูคยอมจะเขินก็คงไม่แปลก

หลังจากแนะนำตัวพูดคุยพบปะกันมาได้สักพักแล้วยูคยอมกับมาร์คก็ขอปลีกตัวไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งบาง แต่ยังไงโต๊ะที่ยูคยอมและมาร์คเลือกนั่งก็คงไม่พ้นโต๊ะที่สามารถมองเห็นยองแจได้ชัดเจนอยู่ดี งานเลี้ยงรื่นเริงดำเนินไปอย่างสนุกสนานเมาบ้างเต้นบางตามจังหวะอารมณ์ ทุกอย่างทุกการกระทำของยองแจนั้นก็มักจะอยู่ในสายตาของคนเป็นน้องเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนที่คนร่างเล็กเมาจนหัวทิ่มโต๊ะ ตอนที่ร้องโวยวายออกมาอย่างน่ารักหรือไม่เว้นแต่…

“...”

“โหยยยยย ถ้าจะทำขนาดนี้มึงสองตัวลากกันขึ้นไปบนห้องเลยไป๊!” เสียงโห่ร้องด้วยน้ำเสียงล้อเลียนจากรุ่นพี่และคนในงานดังขึ้นแต่นั้นก็ไม่อาจจะทำให้ยูคยอมนั้นสนใจมันมากเท่ากับภาพของร่างสองร่างที่ประกบปากคลอเคลียกันอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย มือหน้ากำแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้จนแน่นเพื่อสะกดกั้นอารมณ์ เขาอยากจะเดินหนีไปให้พ้นๆเสียแต่ก็ไม่อาจจะทำได้ในเมื่อหัวใจโง่ๆของเขาอยากจะเก็บภาพความทรงจำอันแสนโหดร้ายเอาไว้ ร่างสูงทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบมองภาพตรงหน้าตาด้วยขอบตาที่ร้อนผ่าว



เขาเจ็บ



เจ็บแต่ไม่เคยจำ



ทั้งที่มีโอกาสแต่เขาก็ไม่คิดที่จะตัดใจ


รู้ทั้งรู้ว่ายองแจมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังดื้อด้านไปหลงรักเขา ตกหลุมรักที่ตัวเองขุดไว้แต่ยัดเยียดว่ายองแจเป็นคนขุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่อาจขึ้นมาได้ กักขังตัวเองอยู่ในหลุมลึกๆที่ไม่ไม่มีบันไดให้ปีนป่ายหนีออกไป กักขังหัวใจอันบอบช้ำให้จมปลักอยู่กับหลุมที่ตนเป็นคนขุดโดยที่ไม่รู้แม้แต่ทางออก

“...”

“ม้ายยยย~ แจบอมอ่าาาา”



“...ฮึก…” ขอบตาร้อนผ่าวเริ่มมีหยดน้ำใสเออขึ้นคลอวงตากลม เขาปล่อยให้หยดน้ำตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดค่อยๆไหลรินลงมาตามกรอบหน้าหล่ออย่างไม่ปิดบัง นัยน์ตากลมยังคงจดจ้องไปที่ร่างรุ่นพี่อันเป็นที่รักของตนกำลังถุกแฟนหนุ่มของเขาซุกไซร้คลอเคลีย รู้ว่าเจ็บแต่ก็อยากให้มันเจ็บจนชา ให้มันตายด้านไปเลยยิ่งดี…

ความรักที่อยากจะครอบครองแต่ก็ไม่สามารถทำมันได้มันเจ็บ…

“ผมรักพี่...ผมอยากให้พี่มีความสุข” ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นมือที่กำแก้วแน่นก็ค่อยๆคลายออก

“ยองแจอ่านายรอยยิ้มนายเป็นของฉันแล้วนะเข้าใจมั้ย”





บางทีท้ายที่สุดแล้ว...การได้รักก็อาจจะเพียงพอแล้วสำหรับความรัก





การที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ ความรักมันไม่จำเป็นต้องครอบครองมันมาเป็นของตัวเอง เพียงแค่แอบมองความรักของเรานั้นมีความสุขผมว่ามันก็ไม่เลวเหมือนกันแม้ว่ารอยยิ้มนั้นมันจะไม่ใช่ของผม สายตานั้นไม่ใช่ของผม แต่ผมก็ยังอยากจะแอบมองมันแม้ไม่ใช่ของตัวเอง คอยดูแลความรักของเราให้มีความสุขอยู่ห่างๆเข้าไปหายามที่เขาต้องการหรือไม่มีใคร ผมว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดีสำหรับการแอบรักข้างเดียวที่สุดแล้วแหละ





ความรักไม่จำเป็นจะต้องครอบครองแต่ความรักคือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข...






TALK::
ขอขอบคุณและสวัสดีคนที่กดเข้ามาอ่านจนจบนะคะ ไรต์เตอร์ชื่อ แพรว นะคะ ^^
ฟิคแนวหน่วงๆแบบนี้แพรวแต่งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่เลยแต่อารมณ์มันพาไป 555
เป็นยังไงก็อยากให้รีดเดอร์ทุกคนได้ติชมเรานะคะจะได้นำมาปรับปรุงเนอะ
สามรถติชมคอมเม้นต์ฟิคของเราได้ที่ #ฟิคสั้นพีจีวาย นะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

NC #YUGJAE Bang bang


“คะ...คุณยูคยอมครับ คุณเพิ่งโดนแทงนะ...นะครับ อื้อ!” เสียงหวานใสเอ่ยบอกคนป่วยที่ดูเหมือนจะลืมความเจ็บปวดที่ตัวเองโดนแทงไปเลย ดูจากสะภาพแล้วดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่เพิ่งโดนมีดอาบสารพิษแทงไปเลยแม้แต่นิดเดียว ให้ตายสินี่เขาโดนมีดแทงที่ท้องจริงไหมเนี่ย!!!


“เออว่ะ ซี๊ดดด” ร่างสูงที่กำลังนั่งคร่อมคนตัวเล็กอยู่ถึงกับร้องซี๊ดออกมาเมื่อรู้สึกว่าแผลที่เกิดจากโดนมีดแทงเพิ่งจะสำแดงอาการตอนนี้ มือหนายกขึ้นมาแตะที่บริเวณโดนแทงเบาๆก็จะเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แต่ถึงจะเจ็บเขาก็อยากอยู่ดีนี่เขารอคอยมานานแล้วนะเรื่องอะไรจะต้องมาพึ่งมือตัวเองกันเล่า!!!


“งั้น…” ยองแจเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก สิ่งๆนั้นแน่นอนว่าจะช่วยคนป่วยด้านบนได้อย่างแน่นอนเพราะดูจากความคับแน่นที่ปูดออกมาจากบริเวณเป้ากางเกงแล้วดูก็รู้ว่าจะให้ลงมันก็ยาก “งั้น...งั้นผะ...ผมออนท็อปให้นะครับ” ว่าจบมือเรียวจับไหล่หนาของคนเจ็บให้พลิกลงไปพิงบนหัวเตียงแทนตนก่อนจะทำการขึ้นไปนั่งบนหน้าขาของร่างหนา มือเล็กทำการดึงเชือกที่ผู้เสื้อเอาไว้ออกทีละเส้นทีละเส้นแล้วถอดเสื้อนั้นโยนลงไปข้างๆเตียง
ยูคยอมมองดูการกระทำของคนด้านบนพลางยกยิ้มด้วยความพอใจ...ยัยลูกแมวของเขาดูคล่องแคล่วกับเรื่องพวกนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ชักจะสงสัยแล้วสิใครกันนะเป็นคนแรกของยองแจ…


อื้อออออ~” เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนด้านบนดังขึ้นพลางส่งมือเรียวไปลูบเล้าโลมอกแกร่งของคนใต้ร่างไปทั่ว มือหน้าที่รั้งอยู่บนลำคอเล็กของยองแจก็ออกแรงกดจนใบหน้าหวานแนบชิดกับใบหน้าของเขามากขึ้น


“อ๊ะ...ซี้ด!” ริมฝีปากบางถูกฟันคมของคนด้านล่างขบกัดและดูดอย่างแรงจนเจ็บระบมไปทั่วริมฝีปาก แต่ถึงเจ็บก็เป็นความเจ็บที่มีความสุข ยองแจผละออกจากคนด้านล่างก่อนตัวสินใจถอดเสื้อและกางเกงขายาวที่ปิดบังรอยช้ำแดงจากเรื่องบนเตียงเมื่อคราก่อนเอาไว้ออกโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิน แผ่นอกขาวเนียนละเอียดที่มีรอยแดงช้ำสีกุหลาบเป็นจ่ำๆกระจายเต็มแผ่นอกปรากฏสู่ดวงตาคมของยูคยอม


“ของใคร...รอยนี้ของใคร” มือหน้าของคนป่วยถูกยกขึ้นมาลูบรอยช้ำที่อยู่บริเวณเหนือหัวกางเกงขึ้นมาก่อนจะจดจ่องไปที่ดวงตาเรียวรีของคนด้านบน คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับโน้มตัวลงไปดูดเม็มยอดอกสีหวานของร่างสูงพร้อมกับมือเล็กที่ไล่ปัดป่ายไปทั่วร่างหนาเพื่อเอาใจยูคยอม ยูคยอมก็ใช่ว่าจะอยู่เฉยยื่นมือออกไปบีบคลึงสะโพกกลมด้วยจังหวะเย้ายวนจนเรื่องรู้สึกแข็งขืนกันคู่


CUT


ยองแจดันตัวขึ้นเหนือแก่นกายของยูคยอมก่อนจะกดตัวลงมาเรื่อยๆ น้ำใสๆเรื่องไหลออกมาจากดวงตาเรียวจนคนด้านร่างต้องยกมือขึ้นมาปาดให้ ฟันคมขบกัดริมฝีปากของตัวเองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาและเม็ดเหงื่อเชิดขึ้นยามที่แก่นกายเข้ามาจนสุด ไม่รู้ทำไมยูคยอมถึงต้องยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ...พอใจที่ยองแจเจ็บคงไม่ใช่แต่งคงเพราะคนด้านบนของเขามันช่างยั่วยวนเหลือนเกิน
“อึ่ก…”
“ขยับสิยองแจ ฉันรอนายอยู่นะ” มือหนาจับเข้าที่สะโพกกลมเพื่อช่วยประคองเมื่อคนตัวเล็กกดตัวลงมา
“อื้อออออ…ผะ...ผมเจ็บ อ่ะ ฮึก” น้ำตาไหล่ลงมาอีกระลอกใหญ่แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตนใด้ดีเสมอ


“อ่าส์...คุณยูคยอม...อ๊ะ อ๊ะ” มือเล็กกำไหล่หนาแน่นเมื่อยูคยอมรูดรั้งแก่นกายของเขาอย่างเร็วจนยองแจต้องขย่มเร็วไปตามๆกัน ทั้งคนด้านล่างเด้งสวนขึ้นมาบ้างหรือคนด้านบนขย่มลงมาบ้างจากความรู้สึกเจ็บก็ค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นความสุขจนแทบไปแตะขอบสวรรค์กันทั้งคู่ จากทำไปน้ำตาคลอเคล้าไปด้วยความเจ็บกลับกายเป็นรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อร่างสูงกระแทกกระทั้นส่วนขึ้นมา...


“ยองแจอ่าาาา…”


“อ๊ะ!!!”


น้ำรักสีขาวขุนที่ไหล่ทะลักออกมาจากแก่นกายของทั้งยองแจและคนป่วยบนเตียงเป็นรอบที่สองตั้งแต่เริ่มทำกันมา ยูคยอมฉีกยิ้มให้คนด้านบนก่อนจะใช้มือกดคอยองแจให้ลงมารับจูบเป็นรางวัลเพียงจูบธรรมดาเท่านั้นก่อนจะผละออกจากกัน รอยยิ้มบางของยองแจปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานชื้นเหงื่อก่อนเจ้าตัวจะเอนตัวลงไปซบลงที่แผ่นอกของร่างสูง มือเรียวลูบเบาๆบริเวณผ้าสกอตที่ปิดรอยแผละจากการโดนแทงเอาไว้เบาๆ
“เจ็บไหมครับ”
“ตอนแรกก็เจ็บอยู่นะ แต่เห็นนายแล้วมันหายเลยแหละ” ยูคยอมว่าจบก็กดจมูกโด่งลงไปกลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่ม พร้อมกับวาดมือไปโอบรอบไหล่มนที่เปลื่อยเปล่า


“จริงอ่ะ…”
“โอ๊ย! ยองแจ...ฉันสั่งคนเก็บนายตอนนี้ทันไหมเนี่ย” ร่างสูงเหวขึ้นด้วยความเจ็บเมื่อยองแจแกล้งใช้มือกดลงไปบนแผลเบาๆ


ให้ตายสิ เมื่อกี้ตอนทำกันทำไมไม่เจ็บแต่พอตอนนี้กดนิดเดียวก็เจ็บแทบตายล่ะ


“ไม่ทันแล้ว คุณยูคยอมได้ผมแล้วคุณยูคยอมต้องรับผิดชอบ” ใบหน้าสวยเชิดขึ้นมองเจ้าของแผ่นอกด้วยใบหน้ายิ้มๆและส่งสายตาล้อเลียนไปให้
“นายยังไม่ท้องเพราะฉนั้นฉันจะ…”
“นี่แหละคนเรา...ถ้าไม่ท้องก็เอาจนกว่าผมจะท้องสิครับ” ยองแจแกล้งกัดริมฝีปากล่างยั่วยวนยูคยอมก่อนจะยืดตัวขึ้นไปไซร้ลำคอแกร่ง
“นี่ๆ หัดท้าทายฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊ะ!”
“คิก…เดี๋ยวผมไปอาบน้ำดีกว่า”
.
.
.
.
ต่อหน้าหลักฟิคนะคะ Bang Bang yugjae @dek d
https://writer.dek-d.com/0933769878/story/view.php?id=1522491

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

Cut BANG BANG!!!

#Bnior
Ep.11






เสื้อผ้าของจินยองทุกชิ้นถูกกำจัดออกโดยร่างสูงที่นั่งคร่อมร่างของเขาอยู่ เมื่อเสื้อผ้าทุกชิ้นถูกกำจัดออกจนหมดแจบอมก็เอาเน็กไทด์ที่ผูกอยู่คอของตัวเองไปผูกปิดตาของจินยองเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองเหมือนกัน



“ไม่ปิดตาได้ไหมผมกลัว...อ๊ะ!” จินยองจะยกมือขึ้นไปปลดเน็กไทด์ที่ปิดตาของตัวเองออกแต่ก็ถูกมือหนาของแจบอมจับเอาไว้ก่อน


“ฉันว่าแบบนี้สนุกกว่าเป็นไหนๆ” แจบอมพูดจบก็ไล่สั้นจมูกลากลงมาจากแผ่นอกเนียนก็ที่จะลากลงมาถึงต้นขาของอีกฝ่าย มือหนานวดคลึงและรูดรั้งตัวตนของร่างเล็กในมืออย่างเร็วแรงแรงตามแรงอารมณ์ของตัวเอง

“อ๊ะ…” ใบหน้าหวานของจินยองเชิดขึ้นตาแรงอารมณ์ที่โดนร่างสูงชักนำ “อ๊าาาา...คะ...คุณ อย่าหยุดดิคุณ” จินยองร้องบอกแจบอมเมื่อเขาหยุดในสิ่งที่กำลังทำไว้อยู่ จินยองจะไปถึงฝั่งฝันแล้วเชียวจะหยุดทำไมกัน

“ฉันช่วยนายได้แค่นี้แหละถึงตานายช่วยฉันบ้างสิ...ฉันเสียเปรียบนะ” ร่างสูงพูดจบก็อุ้มร่างเล็กไปที่เตียงนอนกว้างของเขาเพราะที่ที่มีอยู่ของโซฟามันไม่พอสำหรับอารมณ์ของเขาหรอก

“เฮ้ คุณผมต่างหากที่เสียเปรียบ อ๊ะ!!!” จินยองร้องเสียงหลงทันทีที่ขาทั้งสองข้างของตัวเองถูกจับแยกออก ก่อนที่ร่างสูงจะจ่อแก่นกายของตัวเองไว้ตรงช่องทางสีหวานโดยไม่มีการเบิกทางใดๆทั้งสิ้นเพราะร่างสูงพอรู้อยู่แล้วว่าตนไม่ใช่คนแรกร่างเล็ก แจบอมกดแก่นกายเข้าไปจนมิดด้ามโดยไม่มีบอกหรือส่งสัญญาณใดๆจนทำให้คนใต้ร่างอย่างจินยองถึงกับจุกขึ้นทันที

“อ๊ะ...คุณผะ...ผมยัง อ๊าาา ไม่เคยเลยนะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ร่างสูงไม่สนใจฟังคำพูดบอกของร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย มีแต่กระแทกงไปอย่างเดียวจนคนใต้ร่างได้แต่คร่างด้วยใบหน้าที่เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน ทั้งจุกและอึดอัด จินยองจึงจำใจยอมให้ร่างสูงได้กระแทกกระทั้งลงไปพร้อมกับมือของตัวเองที่รูดรั้งแก่นกายของตัวเองขึ้นลงๆตาความเร็วที่ร่างสูงกระแทกมา ก็เขาไม่ช่วยเราก็ต้องช่วยตัวเอง…

“...”

“อะ..โอ๊ยคุณ...ผะ...ผมของตรงนั้นแรงๆอีกที อื้อ อ๊า!!!” เมื่อร่างสูงกระแทกโดนจุดกระตุ้นอารมณ์ของตน ไม่เคยก็ไม่เคยเหอะ แต่พอโดนแบบนี้แล้วก็ขอไปให้สุดเลยละกัน เมื่อร่างสูงได้รับคำขอจากร่างเล็กก็กระแทกแก่นกายถี่ยิบ และมือของจินยองก็รูดรั้งแก่นกายของตนไปด้วย

“อืมมมม อ๊าาาา” ร่างกายของร่างเล็กกระตุกเกร่งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นจนทะลักออกมาเต็มท้องน้อยของตนพร้อมๆกับที่ร่างสูงได้ปลดปล่อยมันออกมาพร้อมๆกันภายในช่องทางสีหวาน

จินยองรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย ที่ผ่านมามีแต่เกือบๆแต่ก็ไม่ได้ทำจริงๆสักที หลังจากเสร็จงานนั้นเขาก็ต้องอยู่ช่วยและจักการตัวเองก่อนที่จะออกจากจุดนั้นทุกที พึ่งจะมาโดนจริงๆก็ตอนนี้แหละ

ร่างสูงถอดแก่นกายของตัวเองออกก่อนที่จะไปสนใจกับแผ่นอกขาวเนียนของอีกคน เขากัดจะขบเม้มมันจันเป็นรอยแดงและรอยเขียวเป็นจ้ำๆก่อนที่ร่างทั้งสองจะค่อยๆไถลลงไปอยู่พื้นใต้เตียงและกอดรัดฟัดเหวียงกันอยู่ข้างใต้นั้น

“อื้อ...คุณ...พาผมลงจากเตียงทำไม” จินยองถามแจบอม ถึงแม้เขาจะถูกปิดตาอยู่แต่ใช่ว่าประสาทสัมผัสทางผิวกายเขาจะถูกปิดไปด้วย ความเย็นของพื้นผิวกระเบื้องสัมผัสที่แผ่นหลังของเขาทำให้ร่างเล็กนั้นรู้ดีว่าที่ที่เขากำลังนอนอยู่ตรงนั้นมันไม่ใช่เตียง



***นี่เป็น NC ครั้งแรกของเรามันสั้นเนอะ 555 มีข้อติชมหรืออะไรก็คอมเม้นบอกเราได้ในเว็บเด็กดีนะคะ ตอนแต่งฉากนี้นี่นึกย้อนไปถึงตอนที่นั่งดูอะนิเมะวายกับเพื่อนเลยคะถึงจะแต่งได้ แล้วก็อย่าลืมไปเม้นในเด็กดีให้เราด้วยนะคะ มันอาจจะกากบ้างแต่ก็คือครั้งแรกของเรา 555***

https://writer.dek-d.com/0933769878/story/viewlongc.php?id=1522491&chapter=14

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ON NEW YEAR YUGJAE

ON NEW YEAR #yugjae




"อ๊ะ!" ร่างเล็กร้องเสียงหลงทันที่ที่ถูกฝ่ามือหนาของคนตัวสูงดันแผ่นอกจนล้มลงไปนอนราบกับพื้นเตียงนุ่ม ก่อนจะตามมาด้วยร่างใหญ่ที่ทาบทับลงมาอย่างเต็มรักจนทำให้คนใต้ร่างจุกอย่างบอกไม่ถูก 'แต่หลังจากนี้คงจะจุกกว่านี้อีกสิบเท่าล่ะมั้ง' ร่างบางคนในใจก่อนจะเป็นฝ่ายดันคนตัวสูงจนนอนราบไปกับเตียงแทนที่ตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งคร่อมเอวสอบของคนด้านล่างเอาไว้


"ฉันต้องเป็นคนเริ่มไม่ใช่หรอ"


"ใครก็เริ่มได้หมดนั้นแหละถ้าอารมณ์มันพาไป" ว่าจบมือเรียวก็จัดการปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวบางของตัวเองทันทีไม่วายกัดริมฝีปากตัวเองด้วยท่าทางยั่วยวนอีกด้วย พอจัดการถอดเสื้อผ้าที่เป็นอุปสรรคของตนเองออกแล้วก็ก้มลงมาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของคนใต้ร่างอีกด้วย


เสื้อเชิร์ตสีดำของร่างสูงถูกโยนทิ้งออกไปเหลือแต่แผ่นอกกว่าที่เปลือยเปล่า คนตัวเล็กโน้มตัวลงมาใช้ลิ้นเรียวลากเสียไปตามแผ่นอกหนาพลางใช้สายตาเลือบมองเจ้าของแผ่นอกไปด้วยก่อนจะค่อยๆลากสูงขึ้นไปจนถึงปลายคางของร่างสูง


"อ๊ะ!...อื้ออออ~" เหมือนคนใต้ร่างจะหมแความอดทนเขาใช้ฝ่ามือผลักแผ่ยอกเล็กไปอีกทางจนคนตัวเล็กลงไปนอนราบอยู่บนเตียงก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายคร่อมแทนแล้วก้มลงประกบริมฝีปากของร่างบางทันที ริมฝีปากหยักดูดดึงริมฝีปากเล็กด้วยความรุนแรงจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุงเต็มปากแต่ก็ใช่ว่าจะยอมหยุดเอาง่ายๆ ดูเหมือนว่าคนใต้ร่างจะหมดอากาศหายใจแล้วคนตัวสูงเลยผละออกมามองใบหน้าหวานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อชุ่ม


"ยองแจ...ทำไมนายไม่แกะไทด์ออก" ยูคยอมเอ่ยถามคนใต้ร่างที่มีเน็กไทด์สีแดงเลือดนกผูกอยู่ที่ลำคอ


"เก็บไว้ให้นายแกะ" พูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างจนตาแทบปิด ยูคยอมได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นทันทีเพราะเข้าใจถึงจุดประสงค์ของคนตัวเล็กที่ทำไมถึงอยากให้เขาแกะเน็กไทด์ให้


"ชอบความมืดทำไมถึงไม่ปิดไฟเอาล่ะหื้ม" ถึงปากจะว่าอย่างนั้นแต่มือของยูคยอมก็แกะเน็กไทด์ที่อยู่บนคอของยองแจออกให้ คนตัวเล็กใช้มือดันพื้นเตียงเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะยืนหน้าไปให้คนตัวสูงได้เอาเน็กไทด์ผูกปิดดวงตาทั้งสองให้ ทำแบบนี้มันเร้าใจกว่าเป็นไหนๆ


ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วกิจกรรมนี้มันก็เริ่มได้สักที…
.
.
.
ร่างบางเอนตัวล้มลงนอนลงกับเตียงก่อนจะตามมาด้วยร่างสูงที่ทาบทับลงมาที่ส่วนล่าง แก่นกายของคนใต้ร่างถูกกอบกุมด้วยฝ่ามือหนาก่อนที่จะถูกรูดรั้งขึ้นลงเพื่อเอาใจคนตัวเล็ก


"อ่าาาา~ เร็วอีกได้ไหมอะใกล้แล้ว" ยองแจว่าพลางกำผ้าปูที่นอนจนยับเพื่อเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อยแต่ทันทีที่ยูคยอมได้ยินดังนั้นแล้วก็หยุดชะงักมือที่กำลังรูดรั้งแก่นกายคนตัวเล็กทันทีก่อนจะยกขาเรียวทั้งสองข้างของคนตัวเล็กขึ้นมาพาดเอวสอบของตัวเองแล้วกดแก่นกายเข้าไปทันทีรวดเดียวโดยไม่มีการเปิดทางใดๆทั้งนั้นแล้วตามมาด้วยการรัวสะโพกถี่ยิบของคนตัวสูง จนร่างบางได้แต่ครางกระเส่าจนจับใจความไม่ได้


"อ๊ะ!!!!"

"อืมมมม~ ยังไงนายก็จะเสร็จก่อนฉันไม่ได้" ยูคยอมว่าพลางใช้มือทั้งสองข้างกอบกุมมือเล็กที่กำลังจะช่วยตัวเองทั้งสองข้างเอาไว้ ยองแจใช้เล็บจิกมือหนาที่กอบกุมมือตัวเองเอาไว้เพราะอึดอัดแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้เลย จากแรงกระแทกรัวๆในคราแรกก็ถูกผ่อนช้าลงเรื่อยๆก่อนที่แท่งร้อนภายในช่องรักสีหวานจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยมันออกมา ร่างสูงถอดถอนแก่นกายออกมาแล้วค่อยๆถอยลงเตียงก่อนจะจับขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกแล้วย่อตัวลงใช้ปากของตัวเองกอบกุมแท่งร้อนของคนบนเตียงเอาไว้


"อื้มมม~ นายใช้ปากใช่ไหม" เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขถึงจะมองไม่เห็นแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงคนเปียกชื้นและลิ้นของคนตัวสูงที่ไล้เลียหยอกล้อกับแก่นกายตัวเองอยู่


"อื้อ! อย่าใช้ฟัน!!!"


ยองแจร้องเสียงหลงพร้อมกับลุกขึ้นนั่งใช้มือทั้งสองข้างทึ้งผมของยูคยอมเอาไว้ ยูคยอมเหลือบมองคนตัวเล็กที่ลุกขึ้นมาทึงผมตัวเองแวบหนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ต้นขาขาวอย่างเอาใจ ร่างบางที่นั่งอยู่กระตุกเกร็งปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นออกมาจนทั่วโพลงปากของคนตัวสูง ยูคยอมก็กลืนมันลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ


"ยองแจอ่าาา~ ขออีกรอบได้ไหม"


"รอบนี้ขอแรงๆนะ" ยองแจปลดเน็คไทด์ที่ปิดตาของตัวเองออกก่อนจะโยนมันไปไว้ไกลๆแล้วยันตัวลุกขึ้นไปรั้งคอยูคยอมเอาไว้ก่อนจะประกบปากบางลงไป


อ่านแล้วอย่าลืมกลับไปคอมเม้นที่หน้าหลักนิยายด้วยนะคะ https://writer.dek-d.com/0933769878/story/view.php?id=1541001 เป็นฟิคสั้นวันขึ้นปีใหม่นะคะ

Sky & Sea (yugjae) #ฟิคสั้นพีจีวาย

NOTE:: #yugjae TAG:: #ฟิคสั้นพีจีวาย Twitter:: @pgy_j Writer:: Maples_pgyj SONG:: Sky & Sea (เอิ๊ต ภัทรวี) ม...